สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาตอนนี้พวกเค้าถือว่าเป็นอีกหนึ่งยอดทีมแห่งยุคเลยก็ว่าได้ การันตีแชมป์อย่างน้อยหนึ่งใบทุกปีซึ่งความเก่งกาจของพวกเค้ามาจากแผงกองกลางอันแข็งแกร่งนำโดย ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดดาวยิงระดับจักรวาล ซึ่งแผงมิดฟิลด์ไม่ได้มีแค่เข้าเท่านั้นยังมีผู้เล่นคนอื่นอีกที่มาผสมผสานให้ทีมบาร์เซโลนาแข็งแกร่งยิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือ อิวาน ราคิติช กองกลางตัวรุกของทีม
ข้อมูลส่วนตัว
อิวาน ราคิติชเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2531 ปัจจุบันอายุ 31 ปี เกิดที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมือง Rheinfelden ส่วนสูงประมาณ 1.84 เมตร ปัจจุบันเค้าเป็นนักฟุตบอลสโมสรบาร์เซโลนา ส่วนทีมชาติแม้ว่าเจ้าตัวจะเกิดที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แต่ว่าเค้ากลับเลือกเล่นให้กับประเทศโครเอเชีย ซึ่งการเลือกเล่นให้กับโครเอเชีย เป็นการเลือกตามสายเลือดของพ่อ
ประวัติเส้นทางฟุตบอล
เส้นทางฟุตบอลของเค้าถือว่าโลดแล่นได้ดีทีเดียว เริ่มจากระดับเยาวชนเล่นให้กับ เอฟเซ เมอลิน รีบอว์ค จากนั้นขยับไปเล่นให้กับทีมเยาวชนของบาเซิล แหล่งรวมเพชรเม็ดงามระดับเยาวชนของยุโรป ก่อนจะไต่เต้าเข้าสู่ระดับมืออาชีพซีเนียร์ กับทีมบาเซิล ในปี 2005-2007 ลงเล่นไป 34 เกมทำไป 11 ประตู ถือว่าใช้ได้เลยกับการเปิดตัวในฐานะนักเตะอาชีพ
หลังจากประสบความสำเร็จกับบาเซิ่ล ชื่อเสียงของเจ้าตัวทำให้ยักษ์ใหญ่ของยุโรปเริ่มหันมามองบ้าง แต่ไม่มากนัก เป็นทางชาลเก้ 04 ทีมระดับกลางของศึกบุนเดสลีกาเยอรมันที่แสดงความสนใจอย่างเต็มเหนี่ยวจึงได้ตัวไปรวมทีมในช่วงปี 2007-2011 ลงเล่นในสีเสื้อดังกล่าว 97 เกมทำประตูได้ 12 แต่บทบาทกับการมีส่วนร่วมในเกมสำคัญมาก จนทำให้เจ้าตัวแจ้งเกิดในเวทียุโรปอย่างเต็มภาคภูมิจนทำให้เดินทางอีกครั้ง คราวนี้เค้าได้เดินทางไปเล่นในลาลีกา สเปนกับทีม เซบีญ่า ในช่วงปี 2011-2014 ลงเล่นไป 117 เกมกับ 27 ประตู ถือว่าทำได้ดีมาก นับว่าเค้าเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จยุครุ่งเรืองของเซบีญ่าเลยก็ว่าได้ นั่นทำให้บาร์เซโลนาไม่รอช้า รีบทาบทามเจ้าตัวมาร่วมงานด้วยกันที่บาร์เซโลนาตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ถึงตอนนี้เค้าลงเล่นไปแล้ว 160 เกม ทำไป 24 ประตู กลายเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่เข้ามาประสานงานกับเมสซี่, ซัวเรส จนทำให้บาร์เซโลนามีเกมรุกน่ากลัวมาก
ส่วนผลงานกับทีมชาตินั้น หลังจากมาเล่นให้กับโครเอเชีย ถือว่าตัดสินใจไม่ผิดทีเดียว เค้ากับเพื่อนร่วมทีมได้พาโครเอเชียทำผลงานดีในทัวร์นาเมนต์สำคัญไม่ว่า ยูโร 2012 กับ ฟุตบอลโลก 2014 แล้วมาพีคกับฟุตบอลโลก 2018 ที่พาทีมทะลุไปถึงชิงชนะเลิศก่อนจะแพ้ฝรั่งเศสไปอย่างน่าเสียดาย